
เรอัล มาดริด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568 (ตามที่ระบุ) คาดว่าแข่งขันที่สนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กรุงมาดริด
หมายเหตุด้านความถูกต้อง: ปกติปฏิทินยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในเดือนธันวาคมเป็นช่วงรอบลีก (Swiss model/รอบแบ่งกลุ่มในระบบเดิม) และยังไม่เปิดฉากรอบน็อกเอาต์ จึงควรตรวจสอบยืนยันเวลาและรายละเอียดการแข่งขันจากแหล่งทางการก่อนเสมอ เช่น UEFA.com และเว็บไซต์สโมสรทั้งสองทีม
แหล่งยืนยันโปรแกรม: โปรดตรวจสอบที่ UEFA Match Centre (uefa.com) และเพจทางการของ Real Madrid CF และ Manchester City FC ก่อนวันแข่งเพื่อยืนยันเวลาเตะล่าสุด
เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงรักษาเอกลักษณ์เกมรับแน่นในโมเมนต์สำคัญ ผสมการโต้กลับทรงคุณภาพผ่านความเร็วของวินิซิอุส จูเนียร์ และการจบสกอร์ระดับเอลีตของคีลิยัน เอ็มบัปเป้ เสริมด้วยจู๊ด เบลลิงแฮมในบทบาทตัวรุกอิสระที่สอดขึ้นมาทำประตูได้ต่อเนื่อง แดนกลางอย่างเอ็นโซ เฟร์นานเดซ—ขอแก้ไข: เรอัลใช้นิวเคลียสกองกลางจากเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และเอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า เน้นความกว้างในการเพรสและเปลี่ยนแกนเร็ว
แมนฯ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงยึดโครง 3-2-4-1/4-3-3 แบบยืดหยุ่น ใช้จุดเด่นเกมครองบอล, โครงสร้างเกมรุก “โฟร์อินไซด์” (เบอร์นาร์โด้-เดอ บรอยน์-โฟเดน ร่วมกับตัวกว้าง) และจังหวะซ้อนของร็อดรีที่คุมจังหวะกลางสนาม โจมตีพื้นที่ “ฮาล์ฟสเปซ” ก่อนดึงช่องให้เออร์ลิ่ง ฮาลันด์จบสกอร์
ความพร้อม: รายชื่อเจ็บ/แบนให้ติดตามอัปเดตใกล้วันแข่งจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการและสถิติสด (SofaScore/WhoScored/Transfermarkt) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เช่น สภาพความฟิตของกองหลังตัวหลัก (เอแดร์ มิลิเตา/ดาวิด อลาบา) ฝั่งมาดริด รวมถึงความพร้อมของเควิน เดอ บรอยน์, จอห์น สโตนส์ และนายทวารเอแดร์ซอนฝั่งซิตี้
อ้างอิงผลจริงจากรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (ตรวจสอบได้ที่ UEFA.com, WhoScored, SofaScore)
- 17 เม.ย. 2024: แมนฯ ซิตี้ 1-1 เรอัล มาดริด (เรอัล มาดริดชนะดวลจุดโทษ 4-3) – สนามเอติฮัด สเตเดียม (รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง)
- 9 เม.ย. 2024: เรอัล มาดริด 3-3 แมนฯ ซิตี้ – สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว (รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก)
- 17 พ.ค. 2023: แมนฯ ซิตี้ 4-0 เรอัล มาดริด – เอติฮัด (รอบรองชนะเลิศ นัดสอง)
- 9 พ.ค. 2023: เรอัล มาดริด 1-1 แมนฯ ซิตี้ – เบร์นาเบว (รอบรองชนะเลิศ นัดแรก)
- 4 พ.ค. 2022: เรอัล มาดริด 3-1 (ต่อเวลา) แมนฯ ซิตี้ – เบร์นาเบว (รอบรองชนะเลิศ นัดสอง; มาดริดเข้ารอบด้วยสกอร์รวม)
แนวโน้ม: 5 นัดหลังจบแบบ “สูสีมาก” ถึง 4 เกม และมีสกอร์รวมสูงเมื่อเจอกันที่เบร์นาเบว ขณะที่เกมที่เอติฮัดของซิตี้มักคมกริบในจังหวะปิดบัญชี
เพื่อความถูกต้องของข้อมูลเชิงสถิติ ขอสรุป “ผลงาน UCL 5 นัดสุดท้ายของเรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2023/24” ซึ่งเป็นช่วงล่าสุดที่มีการยืนยันชัดเจนจาก UEFA/SofaScore/WhoScored (ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลถัดมา):
- ชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 (นัดชิงฯ) – คลีนชีต 1
- ชนะ บาเยิร์น 2-1 (รองฯ นัดสอง)
- เสมอ บาเยิร์น 2-2 (รองฯ นัดแรก)
- เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (ก่อนฯ นัดสอง, ชนะจุดโทษ)
- เสมอ แมนฯ ซิตี้ 3-3 (ก่อนฯ นัดแรก)
สถิติย่อย: ยิงได้ 10 ประตู เสีย 7 คลีนชีต 1 นัด แหล่งข้อมูล: UEFA.com Match Reports, SofaScore, WhoScored
สรุป “ผลงาน UCL 5 นัดสุดท้ายของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาล 2023/24” อ้างอิงได้จาก UEFA/SofaScore/WhoScored:
- เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 (ก่อนฯ นัดสอง; แพ้จุดโทษ)
- เสมอ เรอัล มาดริด 3-3 (ก่อนฯ นัดแรก)
- ชนะ โคเปนเฮเกน 3-1 (รอบ 16 ทีม นัดสอง)
- ชนะ โคเปนเฮเกน 3-1 (รอบ 16 ทีม นัดแรก)
- ชนะ เซอร์เวน่า ซเวซดา 3-2 (รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย)
สถิติย่อย: ยิงได้ 13 ประตู เสีย 8 คลีนชีต 0 นัด แหล่งข้อมูล: UEFA.com Match Reports, SofaScore, WhoScored
- รูปแบบเกม: เรอัล มาดริดมีแนวโน้มยืน 4-3-1-2/4-3-3 เปลี่ยนเป็น 4-4-2 ตอนป้องกัน ใช้ความเร็วของวินิซิอุสและการเคลื่อนที่อิสระของเอ็มบัปเป้โจมตีหลังแนวรับ จุดชี้ขาดคือระยะห่างแผงกลาง (ชูอาเมนี่-บัลเบร์เด้-กามาวิงก้า) กับไลน์แบ็กโฟร์ไม่ให้หลุดคั่นโดยเพลเมคเกอร์ของซิตี้
- แมนฯ ซิตี้จะคุมเทมโปด้วยร็อดรีและการสลับตำแหน่งของสโตนส์/แบ็กขวาเข้าข้างในเพื่อสร้างโครง 3-2 Build-up, ใช้เดอ บรอยน์กับโฟเดนจู่โจม “โซน 14” และฮาลันด์รอปิดบัญชีในกรอบ 6-12 หลา
- ดวลหนึ่งต่อหนึ่งสำคัญ: รือดิเกอร์/มิลิเตา vs ฮาลันด์, การรับมือของคาร์บาฆาล/เมนดี้ต่อปีกซิตี้ (โฟเดน/โดคู/กรีลิช), และเกมรับทรานซิชันฝั่งซิตี้เมื่อโดนคัทแบ็กจากฝั่งซ้ายของมาดริด
- ลูกนิ่ง: มาดริดได้เปรียบจากความแข็งแกร่งในลูกตั้งเตะ (การโฉบเสาแรกของบัลเบร์เด้/รือดิเกอร์) ส่วนซิตี้เด่นลูกสูตรจากเดอ บรอยน์
หมายเหตุ: เป็นการคาดการณ์เชิงแท็คติก อัปเดตรายชื่อจริงและความพร้อมล่าสุดควรตรวจสอบใกล้เวลาเตะจาก SofaScore/WhoScored และเว็บไซต์สโมสร
- ความคมในกรอบเขตโทษ: ฮาลันด์มีอัตราแปลงโอกาสสูงเมื่อทีมสร้างคัทแบ็ก/ครอสพื้นต่ำ ส่วนฝั่งมาดริดมีเอ็มบัปเป้และวินิซิอุสที่ทำความเสียหายในทรานซิชันได้ดีเยี่ยม
- พื้นที่ครึ่งซ้ายของมาดริด: การประสานงาน เมนดี้-กามาวิงก้า-วินิซิอุส มักเป็นต้นทางจังหวะลุ้นประตู หากซิตี้ดันแบ็กสูง พื้นที่ด้านหลังวอล์คเกอร์เป็นด่านทดสอบเกมรับทรานซิชัน
- โครงสร้างกลางสนาม: ร็อดรีเป็นคีย์ของซิตี้ในการตัดการสวนกลับ หากมาดริดกดดันช่องจ่ายแรกและปิดไลน์ส่งเข้าหาเดอ บรอยน์ เกมรุกซิตี้จะชะงักได้
- โมเมนตัมหัวตารางยุโรป: H2H 5 นัดหลังเสมอถึง 3 เกม และผลต่างประตูรวมไม่ทิ้งห่าง บ่งชี้สภาพคู่คี่ การตัดสินอาจมาจากรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น ลูกนิ่ง/ความผิดพลาดส่วนบุคคล
เรอัล มาดริด 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เหตุผลเชิงข้อมูล: H2H ล่าสุดใน UCL สะท้อนเกมที่ “ไม่เปิดหน้าแลกโดยประมาท” ทั้งสองฝ่าย ต่างมีช่วงคุมเกมของตัวเอง และจบด้วยผลสูสีบ่อยครั้ง มาดริดได้แรงหนุนจากเบร์นาเบว ขณะที่ซิตี้ควบคุมจังหวะได้ดี โอกาสออกเสมอมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งฝ่ายชนะขาด
หากคุณสนใจแทงบอลออนไลน์ กับ เว็บแทงบอลเกาหลี อันดับ1 หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อแอดมินได้ตลอด 24 ชม. ที่ LINE@ : @Ufakr888 หรือกด สมัครสมาชิก ง่ายๆ ที่ UFAKOREA888
