
แมนฯ ซิตี้ พบ ดอร์ทมุนด์ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025/26 วันที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 (2025) สนาม: เอติฮัด สเตเดียม, แมนเชสเตอร์ รายการแข่งขัน: ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (League Phase — รูปแบบสวิส)
เวลาแข่งขันตามประเทศไทยโดยทั่วไปสำหรับโปรแกรมแชมเปียนส์ลีกคือช่วง 03:00 น. (ICT) หากคิกออฟยุโรปเวลา 21:00 CET ทั้งนี้โปรดตรวจสอบเวลาเตะและรายละเอียดล่าสุดจากแหล่งทางการอีกครั้งก่อนวันแข่ง: ศูนย์ข้อมูลการแข่งขันของ UEFA (uefa.com) และหน้าปฏิทินแข่งขันของสโมสรแมนฯ ซิตี้/ดอร์ทมุนด์ (mancity.com, bvb.de) เพื่อความถูกต้องแบบเรียลไทม์
ยืนยันการอ้างอิงโปรแกรมและสนามจาก: UEFA.com และเว็บไซต์สโมสรอย่างเป็นทางการของ Manchester City และ Borussia Dortmund
แรงจูงใจ: แมนฯ ซิตี้เป้าหมายชัดเจนคือเก็บแต้มเต็มในบ้านเพื่อตอกย้ำความได้เปรียบใน League Phase และล็อกอันดับท็อปเพื่อลดแรงกดดันในช่วงท้าย ส่วนดอร์ทมุนด์ต้องการแต้มจากเกมเยือนเพื่อเพิ่มโอกาสผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ โดยเฉพาะเมื่อการจัดอันดับแบบลีกเฟสวัดกันทั้งคะแนนรวมและตัวชี้วัดรอง
ความพร้อม: ซิตี้ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา โดยโครงหลักยังคงใช้แกนเดิมที่มีวินัยในเกมเพรสซิ่งและคอนโทรลบอล นำโดย เอแดร์ซอน, รูเบน ดิอาส, โรดรี, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น, แบร์นาโด้ ซิลวา, เจเรมี โดกู และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ (อ้างอิงข้อมูลขุมกำลังจาก Transfermarkt และรายชื่อผู้เล่นตัวจริงฤดูกาลล่าสุดจาก WhoScored/SofaScore)
ฝั่งดอร์ทมุนด์ ชุดแข่งยุคหลังยังพึ่งพา เกรกอร์ โคเบิล ในด่านสุดท้าย บวกโครงหลังอย่าง ยูเลียน ริเออร์ซอน, นิคลาส ซือเลอ/นิโค่ ชล็อตเทอร์เบ็ค, รามี่ เบนเซไบนี่ กลางรับใช้ เอ็มเร ชาน หรือ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เชื่อมกับ ยูเลียน บรันด์ท เกมรุกใช้ความเร็วของ ดอนเยลล์ มาเล่น/คาริม อเดเยมี่ และความคมของ นิคลาส ฟุลล์ครุก (ฐานข้อมูลนักเตะ: Transfermarkt; สถิติการออกสตาร์ทตามแนวโน้มจาก SofaScore/WhoScored)
หมายเหตุด้านความพร้อมและตัวเจ็บ/แบน: โปรดตรวจสอบอัปเดตวันแข่งจริงจากแหล่งทางการ (ทีมแพทย์สโมสรและ UEFA match center) เนื่องจากสถานะผู้เล่นอาจเปลี่ยนแปลงใกล้เวลาเตะ
- 25 ต.ค. 2022: ดอร์ทมุนด์ 0-0 แมนฯ ซิตี้ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม) — ดุเดือดและเน้นแท็คติก เกมรับดอร์ทมุนด์มีวินัย (อ้างอิง: UEFA, WhoScored)
- 14 ก.ย. 2022: แมนฯ ซิตี้ 2-1 ดอร์ทมุนด์ (รอบแบ่งกลุ่ม) — จู๊ด เบลลิงแฮม ยิงให้ BVB นำ ก่อน จอห์น สโตนส์ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ พลิกให้ซิตี้ (อ้างอิง: UEFA match report)
- 14 เม.ย. 2021: ดอร์ทมุนด์ 1-2 แมนฯ ซิตี้ (รอบก่อนรองฯ เลกสอง) — เบลลิงแฮม/ริยาด มาห์เรซ(จุดโทษ)/ฟิล โฟเด้น (ซิตี้เข้ารอบรวม 4-2) (อ้างอิง: UEFA)
- 6 เม.ย. 2021: แมนฯ ซิตี้ 2-1 ดอร์ทมุนด์ (รอบก่อนรองฯ เลกแรก) — เควิน เดอ บรอยน์, มาร์โก รอยส์, ฟิล โฟเด้น (อ้างอิง: UEFA)
- 4 ธ.ค. 2012: ดอร์ทมุนด์ 1-0 แมนฯ ซิตี้ (รอบแบ่งกลุ่ม) — ยูเลี่ยน ชีเบอร์ ยิงชัย (อ้างอิง: UEFA)
แนวโน้ม: 5 นัดหลังสุด ซิตี้ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยมี 3 นัดที่ผลต่างเพียงประตูเดียว สะท้อนว่าคู่นี้มักตัดสินกันที่รายละเอียดในพื้นที่สุดท้ายและลูกทีเด็ดปลายเกม
เพื่อความถูกต้องเชิงสถิติล่าสุด (ผลแข่งขัน, ประตูได้-เสีย, คลีนชีต) โปรดอ้างอิงจากหน้าทีมแมนฯ ซิตี้ใน SofaScore/WhoScored และแมตช์เซ็นเตอร์ของ UEFA ซึ่งอัปเดตแบบเรียลไทม์ก่อนคิกออฟ
ภาพรวมเชิงแท็คติกตามข้อมูลย้อนหลัง: แมนฯ ซิตี้ในเกมยุโรปภายใต้เป๊ป กวาร์ดิโอลา มีอัตราครองบอลเฉลี่ยมากกว่า 60% อย่างสม่ำเสมอ, โอกาสยิงตรงกรอบเฉลี่ยต่อเกมอยู่ในโซนสูงของทัวร์นาเมนต์ และมีค่า xG ต่อเกมระดับท็อปของรายการในช่วงหลายฤดูกาลหลัง (อ้างอิงแนวโน้มจาก WhoScored/SofaScore)
เพื่อความถูกต้องเชิงสถิติล่าสุด (ผลแข่งขัน, ประตูได้-เสีย, คลีนชีต) โปรดตรวจสอบจากหน้าทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ใน SofaScore/WhoScored และ UEFA match center ก่อนวันแข่ง
ภาพรวมเชิงแท็คติก: ดอร์ทมุนด์เล่นทรานซิชั่นเร็ว จุดแข็งคือความเร็วของตัวรุกริมเส้นและการวิ่งสอดในฮาล์ฟสเปซ ค่า xG เกิดจากการสวนกลับและครอสจากด้านกว้างเป็นหลัก โดยเกมเยือนในยุโรปมักเลือกบล็อกกลาง-ลึกแล้วเปลี่ยนสปีดเข้าทำ (อ้างอิงแนวโน้มจาก WhoScored/SofaScore)
- แมนฯ ซิตี้: โครง 4-3-3/3-2-4-1 แบบยืดหยุ่น เริ่มด้วยแบ็กขวาอินเวิร์ต (เช่น ไคล์ วอล์คเกอร์/มานูเอล อคันจิ) ดันเข้ากลางประกบ โรดรี สร้างรูป 3-2 ในเฟสตั้งลำ เกมรุกใช้การโอเวอร์โหลดฝั่งขวาด้วย แบร์นาโด้-โฟเด้น เพื่อเปิดพื้นที่ครอส/คัทแบ็กให้ ฮาแลนด์ โหม่งหรือชาร์จจังหวะสอง
- ดอร์ทมุนด์: โครง 4-2-3-1/4-3-3 เน้นทรานซิชั่น ความเร็วของ อเดเยมี่/มาเล่น คืออาวุธเจาะหลังไลน์สูงของซิตี้ การยืนบล็อก 4-5-1 ลดช่องครึ่งพื้นที่ (half-space) แล้วล็อกเส้นจ่ายเข้ากล่องโทษ การสวนกลับพึ่งจังหวะวิ่งไลน์แบ็กซ้ายของซิตี้และการดวล 1v1 ทางฝั่งแบ็กขวาของดอร์ทมุนด์
จุดเปลี่ยนสำคัญ: ลูกนิ่งทั้งสองฝั่ง — ซิตี้ได้เปรียบจากคุณภาพการครอสและการจัดระเบียบโซนในเขตโทษ ขณะที่ดอร์ทมุนด์อันตรายจากลูกตั้งเตะที่ใช้ร่างกายของ ซือเลอ/ชล็อตเทอร์เบ็ค และการวิ่งตัดเสาแรก
หมายเหตุ: ไลน์อัพข้างต้นเป็นการคาดการณ์เชิงแท็คติก อ้างอิงรูปแบบการใช้งานล่าสุดและฐานข้อมูลผู้เล่นจาก SofaScore/WhoScored และรายงานทีมของสโมสร ควรตรวจสอบ 11 ตัวจริงทางการก่อนคิกออฟ
- ฮาแลนด์ vs โคเบิล: ฮาแลนด์เคยยิงใส่ดอร์ทมุนด์ในยูซีแอล 2022/23 เกมที่เอติฮัด และมีค่า xG/90 ในยุโรปอยู่ระดับท็อปของรายการตลอดหลายฤดูกาล (อ้างอิงแนวโน้มจาก WhoScored/SofaScore) โคเบิลต้องออกแรงกับลูกครอสเร็วและคัทแบ็ก
- คอนโทรลแดนกลาง: โรดรี + เดอ บรอยน์ กำหนดเทมโปและซอยบอลเข้าพื้นที่ครึ่งช่อง หากดอร์ทมุนด์ตัดเส้นจ่ายเข้ากลางได้ (ชาน/ซาบิตเซอร์ บีบซ้อน) จะลดโอกาสซิตี้ยิงตรงกรอบที่มักเกิน 5 ครั้ง/เกมในบ้าน
- พื้นที่ด้านกว้างของซิตี้: โดกู/โฟเด้น เพิ่มมิติเลี้ยงกินตัว จังหวะ 1v1 กับฟูลแบ็กดอร์ทมุนด์จะเป็นตัวชี้ขาดว่าซิตี้เปิดสกอร์แรกเร็วหรือไม่
- ทรานซิชั่นของดอร์ทมุนด์: มาเล่น/อเดเยมี่ มีสปีดเล่นสวนกลับ หากซิตี้ดันไลน์สูงและเสียบอลในโซน 2 ดอร์ทมุนด์มีโอกาสสร้าง xG จากสถานการณ์วิ่งแข่งหลังแนวรับ
- ลูกตั้งเตะ: ซิตี้ทำประตูจากลูกนิ่งได้สม่ำเสมอในยุโรป (ทั้งเตะมุมสั้นและเล่นเซ็ตเพลย์) ส่วนดอร์ทมุนด์มีตัวโหม่งดีหลายราย เกมนี้ลูกนิ่งของทั้งสองทีมมีน้ำหนักต่อผลลัพธ์
แมนฯ ซิตี้ 2-1 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
เหตุผล: ซิตี้ได้เปรียบจากคุณภาพเกมเหย้า การคอนโทรลแดนกลาง และความเฉียบคมปลายทางของฮาแลนด์ ขณะที่ดอร์ทมุนด์มีทีเด็ดจากทรานซิชั่นและลูกตั้งเตะ คาดว่าเกมสูสีในเชิงแท็คติก แต่ความต่อเนื่องและความลึกของขุมกำลังซิตี้จะตัดสินผลในช่วงครึ่งหลัง
หากคุณสนใจแทงบอลออนไลน์ กับ เว็บแทงบอลเกาหลี อันดับ1 หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อแอดมินได้ตลอด 24 ชม. ที่ LINE@ : @Ufakr888 หรือกด สมัครสมาชิก ง่ายๆ ที่ UFAKOREA888
