
แมน ซิตี้ พบ บอร์นมัธ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ เอเอฟซี บอร์นมัธ กำหนดแข่งขันวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม เมืองแมนเชสเตอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงเป็นมาตรฐานของลีกทั้งในเชิงโครงสร้างเกมรุก การครองบอล และคุณภาพในพื้นที่สุดท้าย โดยมีแกนหลักอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ (ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ 27 ประตู), ฟิล โฟเดน (19 ประตูในลีก 2023/24) และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เพิ่มมิติการสร้างสรรค์ ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” มักมีภารกิจฟุตบอลยุโรปกลางสัปดาห์ช่วงต้น–กลางพฤศจิกายน ซึ่งอาจส่งผลต่อการโรเตชันรายชื่อผู้เล่น
ฝั่งบอร์นมัธ ภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี อิราโอลา แสดงให้เห็นพัฒนาการเกมเพรสและทรานซิชันเร็วเด่นชัดตั้งแต่ซีซัน 2023/24 โดยมี โดมินิก โซลันกี (ยิง 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก 2023/24) เป็นตัวจบสกอร์หลัก เสริมเกมรุกด้วย จัสติน ไคลเวิร์ต, มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ และไรอัน คริสตี จุดชี้ขาดสำหรับ “เดอะ เชอร์รี่ส์” มักอยู่ที่คุณภาพจังหวะสุดท้ายและการป้องกันพื้นที่ครึ่งช่องระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์เมื่อเผชิญแนวรุกแบบโอเวอร์โหลดของซิตี้
อัปเดตความพร้อม-ตัวเจ็บ/แบน: โปรดตรวจสอบใกล้วันแข่งจากแหล่งข่าวทีม เช่น Premier Injuries และโซเชียลมีเดีย/เว็บไซต์ทางการของทั้งสองสโมสรเพื่อข้อมูลล่าสุดที่เชื่อถือได้
- 24 ก.พ. 2024: บอร์นมัธ 0-1 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) — แหล่งข้อมูล: SofaScore, WhoScored
- 4 พ.ย. 2023: แมนฯ ซิตี้ 6-1 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) — แหล่งข้อมูล: SofaScore, WhoScored
- 25 ก.พ. 2023: บอร์นมัธ 1-4 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) — แหล่งข้อมูล: Transfermarkt
- 13 ส.ค. 2022: แมนฯ ซิตี้ 4-0 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) — แหล่งข้อมูล: Transfermarkt
- 15 ก.ค. 2020: แมนฯ ซิตี้ 2-1 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก) — แหล่งข้อมูล: WhoScored
แนวโน้มสำคัญ: แมนฯ ซิตี้ ชนะ 100% ในพรีเมียร์ลีกตลอดการพบกัน 14 นัด (จนจบฤดูกาล 2023/24) ยิงรวม 45 ประตู เสีย 7 ประตู เฉลี่ยยิงต่อเกม 3.21 และเก็บคลีนชีตได้ 7 นัดในการพบกันลีก (อ้างอิงสถิติ H2H: Transfermarkt/WhoScored)
อ้างอิงฟอร์มช่วงปลายฤดูกาล 2023/24 (รวมทุกรายการ) ของแมนฯ ซิตี้: ชนะ วูล์ฟส์ 5-1 (ลีก), ชนะ ฟูแล่ม 4-0 (ลีก), ชนะ สเปอร์ส 2-0 (ลีก), ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (ลีก), แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (เอฟเอ คัพ รอบชิงฯ)
สรุป: ชนะ 4 แพ้ 1, ยิงได้ 14 ประตู เสีย 4 ประตู คลีนชีต 2 นัด — แหล่งข้อมูล: SofaScore/WhoScored/Transfermarkt
หมายเหตุ: ฟอร์ม 5 นัดล่าสุดของฤดูกาลปัจจุบัน (2025/26) โปรดตรวจสอบอัปเดตล่าสุดจากแหล่งข้อมูลข้างต้นก่อนแข่งเพื่อความถูกต้อง
อ้างอิงฟอร์มช่วงโค้งท้ายฤดูกาล 2023/24 ของบอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก): ชนะ วูล์ฟส์ 1-0 (เยือน), ชนะ ไบรท์ตัน 3-0 (เหย้า), แพ้ อาร์เซน่อล 0-3 (เยือน), แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 (เหย้า), แพ้ เชลซี 1-2 (เยือน)
สรุป: ชนะ 2 แพ้ 3, ยิงได้ 6 ประตู เสีย 7 ประตู คลีนชีต 2 นัด — แหล่งข้อมูล: SofaScore/Transfermarkt
หมายเหตุ: ฟอร์ม 5 นัดล่าสุดของฤดูกาลปัจจุบัน (2025/26) โปรดตรวจสอบอัปเดตก่อนแข่งจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- แมนฯ ซิตี้: โครง 3-2-4-1/4-3-3 แบบยืดหยุ่น เกมรุกสร้าง “บ็อกซ์มิดฟิลด์” ด้วยการอินเวิร์ตฟูลแบ็กหรือให้จอห์น สโตนส์ขยับยืนข้างโรดรี้เพื่อคุมรีไซเคิลบอลและออกบอลทะลุครึ่งช่องสู่ฟิล โฟเดน/แบร์นาร์โด้ ซิลวา การโจมตีด้านกว้างอาศัยการโอเวอร์โหลดและสลับตำแหน่งระหว่างวิงเกอร์กับฟูลแบ็ก ขณะที่พื้นที่รีสท์ดีเฟนซ์ถูกคุมด้วย 2 เซ็นเตอร์บวกโรดรี้เพื่อตัดทรานซิชันคู่แข่ง
- บอร์นมัธ: ระบบหลัก 4-2-3-1/4-3-3 ของอิราโอลา เน้นเพรสทรงสูง-ไล่บีบทรานซิชันทันทีที่เสียบอล ใช้คริสตี/ทาเวอร์เนียร์คอยล้อมแดนสองเพื่อชิงบอลกลับ จังหวะเข้าทำพึ่งพาการคัทแบ็ก-ครอสส์ต่ำให้โซลันกี หากถูกบีบให้ตั้งรับลึก โครง 4-4-2/4-5-1 จะชิดไลน์กลางและบังคับซิตี้ขึ้นเกมสู่พื้นที่ริมเส้น
จุดเปลี่ยนสำคัญ: 1) การรับมือบอลทะลุครึ่งช่องของซิตี้ 2) คุณภาพเซตพีซฝั่งบอร์นมัธ (ลูกขว้าง/เตะมุม) 3) ประสิทธิภาพจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกของโซลันกี และ 4) ความเฉียบคมช็อตแรกในกรอบ 6 หลาของฮาแลนด์ หากซิตี้ขึ้นนำเร็ว เกมอาจไหลตามโมเมนตัมเจ้าถิ่น
อ้างอิงโครงและคาดการณ์จากแนวโน้มตัวจริงของฤดูกาลล่าสุดโดย SofaScore/WhoScored (โปรดเช็กอัปเดต 24–48 ชั่วโมงก่อนแข่ง)
- เฮดทูเฮดชัดเจน: ซิตี้ชนะพรีเมียร์ลีก 14/14 นัดที่เจอกับบอร์นมัธ ยิงรวม 45 เสีย 7 เฉลี่ยสกอร์รวมต่อเกม 3.71 ประตู (Transfermarkt/WhoScored) การได้เล่นในเอติฮัดเพิ่มความได้เปรียบทั้งด้านคุณภาพสนามและการควบคุมเทมโป้
- คุณภาพผู้จบสกอร์: ฮาแลนด์ (27 ประตูในลีก 2023/24) และโฟเดน (19 ประตู) มีสถิติการเข้าพื้นที่กรอบ 6 หลาสูงและยิงตรงกรอบต่อเกมในระดับหัวแถวของลีก ขณะที่บอร์นมัธต้องหวังความคมของโซลันกี (19 ประตูลีก 2023/24) ในจังหวะสวน/คัทแบ็ก
- เกมรุก vs เกมรับ: ตามข้อมูลเชิงสถิติฤดูกาล 2023/24 แมนฯ ซิตี้เป็นหนึ่งในทีมที่มีสัดส่วนครองบอลและโอกาสยิงคุณภาพ (xG) สูงสุดของลีก ขณะที่บอร์นมัธเด่นเรื่องเพรสซิ่งและบอลสอง แต่มีช่วงวูบเมื่อเจอทีมที่หมุนบอลเร็วในครึ่งช่อง (อ้างอิงภาพรวมจาก WhoScored/SofaScore)
- เซตพีซ/ทรานซิชัน: บอร์นมัธอันตรายในลูกเตะมุมและการสวนกลับระยะสั้น หากซิตี้ดันไลน์สูงแล้วเสียบอลกลางทาง พื้นที่ด้านหลังฟูลแบ็กคือโอกาสของทีมเยือน อย่างไรก็ดี “เรือใบ” แก้เกมด้วยการจัดวางรีสท์ดีเฟนซ์ 2+3 ลดความเสี่ยงบอลทะลุ
แมนฯ ซิตี้ 3-0 บอร์นมัธ — เจ้าบ้านเหนือกว่าอย่างเป็นระบบทั้งเกมรุกแบบบ็อกซ์มิดฟิลด์และคุณภาพผู้จบสกอร์ เฮดทูเฮดในพรีเมียร์ลีกชัดเจน (ชนะ 14/14 นัด ยิงเฉลี่ย 3.21 ประตู/เกม) ขณะที่บอร์นมัธแม้เพรสดีและมีทีเด็ดจากโซลันกี แต่การเอาตัวรอดในพื้นที่สุดท้ายของเอติฮัดเป็นโจทย์ที่ยากมากเมื่อเจอความนิ่งในจังหวะสุดท้ายของซิตี้
